เอกสารมหาชนที่ออกโดยทางการต่างประเทศเพื่อนำไปใช้ยื่นต่อหน่วยงานในประเทศไทย จะต้องผ่านกระบวนการรับรองนิติกรณ์เอกสาร โดยกระบวนการการรับรองเอกสารจะต้องผ่านการนิติกรณ์เอกสารจากหลายหน่วยงาน รวมถึงการแปลเอกสารด้วย
ขั้นตอนในประเทศอุรุกวัย
- นำเอกสารต้นฉบับไปขอรับรองนิติกรณ์จากหน่วยงานที่รับผิดชอบการออกเอกสารนั้น ๆ ซึ่งอาจจะเป็นหน่วยงานเดียวหรือหลายหน่วยงาน ขึ้นอยู่กับประเภทของเอกสาร ดังนั้น ขอแนะนำให้สอบถามกับหน่วยงานผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องล่วงหน้าเพื่อขอรับการยืนยันขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนดำเนินการขั้นตอนต่อไป ตัวอย่างเช่น:
- เอกสารสำคัญทางการศึกษาในอุรุกวัย (เช่น ประกาศนียบัตรระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา หรืออุดมศึกษา) จะต้องผ่านการรับรองนิติกรณ์จากกระทรวงศึกษาธิการ
และวัฒนธรรมอุรุกวัยก่อน
- เอกสารที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุขหรือเอกสารอื่นที่ลงนามโดยบุคลากรด้านสาธารณสุข (เช่น ใบรับรองการฉีดวัคซีน ใบรับรองแพทย์) จะต้องผ่านการรับรองนิติกรณ์จากกรมการออกใบอนุญาตและกำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขอุรุกวัยก่อน
- เอกสารที่ออกโดยโนตารี (ที่ออกหรือดำเนินการโดยโนตารีพับลิกอุรุกวัยหรือหน่วยงานด้านตุลาการอุรุกวัย) จะต้องผ่านการรับรองนิติกรณ์จากศาลฎีกาอุรุกวัยก่อน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.gub.uy/tramites/apostilla-yo-legalizacion-documentos-publicos-uruguayos-extranjeros-produzcan-efectos-exterior-republica
- นำเอกสารต้นฉบับที่ได้รับการรับรองนิติกรณ์ในขั้นตอนก่อนหน้านี้ไปยื่นต่อศูนย์บริการประชาชน (Centro de Atención Ciudadana: CAC) กระทรวงการต่างประเทศอุรุกวัย
กรุณายื่นคำร้องขอรับรองนิติกรณ์เอกสารโดยวิธีการ “Legalización” เนื่องจากเอกสารที่ได้รับการรับรองนิติกรณ์โดยวิธีการ Apostille จะไม่สามารถนำไปใช้ในประเทศไทยได้ เนื่องจากประเทศไทยมิได้เป็นภาคีอนุสัญญากรุงเฮกว่าด้วยการยกเลิกข้อกำหนดของการนิติกรณ์สำหรับเอกสารมหาชนต่างประเทศ (Apostille Convention)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: [email protected]
- เมื่อเอกสารต้นฉบับได้ผ่านการรับรองนิติกรณ์จากศูนย์บริการประชาชน (CAC) กระทรวงการต่างประเทศอุรุกวัยแล้ว จะต้องนำเอกสารต้นฉบับภาษาสเปนไปแปลเป็นภาษาอังกฤษโดยนักแปลสาบานตนที่ขึ้นทะเบียนกับศาลฎีกาอุรุกวัย โดยลายมือชื่อนักแปลจะต้องผ่านการรับรองนิติกรณ์จากศาลฎีกาอุรุกวัย
- นำเอกสารต้นฉบับที่ผ่านการรับรองนิติกรณ์แล้ว พร้อมกับเอกสารคำแปลภาษาอังกฤษไปยื่นต่อศูนย์บริการประชาชน (CAC) กระทรวงการต่างประเทศอุรุกวัยอีกครั้ง เพื่อขอรับรองนิติกรณ์
เอกสารคำแปลภาษาอังกฤษ โดยครั้งนี้จะรับรองลายมือชื่อเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาอุรุกวัยไว้ด้วย
- เมื่อได้รับการรับรองนิติกรณ์แล้ว ให้ยื่นชุดเอกสารทั้งหมดต่อสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส เพื่อขอรับรองความแท้จริงของลายมือชื่อเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศอุรุกวัย
ผู้ยื่นคำร้องจะต้องยื่นสำเนาเอกสารทั้งหมดกับสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยมีค่าธรรมเนียมในการรับรองนิติกรณ์เอกสารอยู่ที่ 15 ดอลลาร์สหรัฐต่อลายมือชื่อที่ต้องการรับรอง โดยต้องชำระเป็นเงินสดด้วยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐที่สถานเอกอัครราชทูตฯ เท่านั้น และจะไม่มีการคืนเงินไม่ว่าในกรณีใด ๆ
ขั้นตอนในประเทศไทย
- นำเอกสารคำแปลภาษาอังกฤษไปแปลเป็นภาษาไทยโดยผู้ยื่นคำร้องเองหรือโดยนักแปลมืออาชีพในประเทศไทย
- นำเอกสารคำแปลภาษาไทยพร้อมกับเอกสารที่ผ่านการรับรองนิติกรณ์แล้วทั้งหมดไปยื่นต่อกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศไทย เพื่อขอรับรองความแท้จริงของลายมือชื่อเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ รวมถึงรับรองเอกสารคำแปลภาษาไทย ก่อนนำเอกสารไปยื่นต่อหน่วยงานปลายทางที่ประเทศไทยต่อไป
* * * * *
ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส
วันที่ 18 กรกฎาคม 2568