การรับรองนิติกรณ์เอกสารมหาชนที่ออกโดยทางการอุรุกวัยเพื่อนำไปใช้ในประเทศไทย

การรับรองนิติกรณ์เอกสารมหาชนที่ออกโดยทางการอุรุกวัยเพื่อนำไปใช้ในประเทศไทย

วันที่นำเข้าข้อมูล 29 ก.ค. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 31 ก.ค. 2568

| 2,402 view

เอกสารมหาชนที่ออกโดยทางการต่างประเทศเพื่อนำไปใช้ยื่นต่อหน่วยงานในประเทศไทย จะต้องผ่านกระบวนการรับรองนิติกรณ์เอกสาร โดยกระบวนการการรับรองเอกสารจะต้องผ่านการนิติกรณ์เอกสารจากหลายหน่วยงาน รวมถึงการแปลเอกสารด้วย

ขั้นตอนในประเทศอุรุกวัย

  1. นำเอกสารต้นฉบับไปขอรับรองนิติกรณ์จากหน่วยงานที่รับผิดชอบการออกเอกสารนั้น ๆ ซึ่งอาจจะเป็นหน่วยงานเดียวหรือหลายหน่วยงาน ขึ้นอยู่กับประเภทของเอกสาร ดังนั้น ขอแนะนำให้สอบถามกับหน่วยงานผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องล่วงหน้าเพื่อขอรับการยืนยันขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนดำเนินการขั้นตอนต่อไป ตัวอย่างเช่น:
  • เอกสารสำคัญทางการศึกษาในอุรุกวัย (เช่น ประกาศนียบัตรระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา หรืออุดมศึกษา) จะต้องผ่านการรับรองนิติกรณ์จากกระทรวงศึกษาธิการ
    และวัฒนธรรมอุรุกวัยก่อน
  • เอกสารที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุขหรือเอกสารอื่นที่ลงนามโดยบุคลากรด้านสาธารณสุข (เช่น ใบรับรองการฉีดวัคซีน ใบรับรองแพทย์) จะต้องผ่านการรับรองนิติกรณ์จากกรมการออกใบอนุญาตและกำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขอุรุกวัยก่อน
  • เอกสารที่ออกโดยโนตารี (ที่ออกหรือดำเนินการโดยโนตารีพับลิกอุรุกวัยหรือหน่วยงานด้านตุลาการอุรุกวัย) จะต้องผ่านการรับรองนิติกรณ์จากศาลฎีกาอุรุกวัยก่อน

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.gub.uy/tramites/apostilla-yo-legalizacion-documentos-publicos-uruguayos-extranjeros-produzcan-efectos-exterior-republica

  1. นำเอกสารต้นฉบับที่ได้รับการรับรองนิติกรณ์ในขั้นตอนก่อนหน้านี้ไปยื่นต่อศูนย์บริการประชาชน (Centro de Atención Ciudadana: CAC) กระทรวงการต่างประเทศอุรุกวัย

กรุณายื่นคำร้องขอรับรองนิติกรณ์เอกสารโดยวิธีการ “Legalización” เนื่องจากเอกสารที่ได้รับการรับรองนิติกรณ์โดยวิธีการ Apostille จะไม่สามารถนำไปใช้ในประเทศไทยได้ เนื่องจากประเทศไทยมิได้เป็นภาคีอนุสัญญากรุงเฮกว่าด้วยการยกเลิกข้อกำหนดของการนิติกรณ์สำหรับเอกสารมหาชนต่างประเทศ (Apostille Convention)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: [email protected]

  1. เมื่อเอกสารต้นฉบับได้ผ่านการรับรองนิติกรณ์จากศูนย์บริการประชาชน (CAC) กระทรวงการต่างประเทศอุรุกวัยแล้ว จะต้องนำเอกสารต้นฉบับภาษาสเปนไปแปลเป็นภาษาอังกฤษโดยนักแปลสาบานตนที่ขึ้นทะเบียนกับศาลฎีกาอุรุกวัย โดยลายมือชื่อนักแปลจะต้องผ่านการรับรองนิติกรณ์จากศาลฎีกาอุรุกวัย
  2. นำเอกสารต้นฉบับที่ผ่านการรับรองนิติกรณ์แล้ว พร้อมกับเอกสารคำแปลภาษาอังกฤษไปยื่นต่อศูนย์บริการประชาชน (CAC) กระทรวงการต่างประเทศอุรุกวัยอีกครั้ง เพื่อขอรับรองนิติกรณ์
    เอกสารคำแปลภาษาอังกฤษ โดยครั้งนี้จะรับรองลายมือชื่อเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาอุรุกวัยไว้ด้วย
  3. เมื่อได้รับการรับรองนิติกรณ์แล้ว ให้ยื่นชุดเอกสารทั้งหมดต่อสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส เพื่อขอรับรองความแท้จริงของลายมือชื่อเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศอุรุกวัย

ผู้ยื่นคำร้องจะต้องยื่นสำเนาเอกสารทั้งหมดกับสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยมีค่าธรรมเนียมในการรับรองนิติกรณ์เอกสารอยู่ที่ 15 ดอลลาร์สหรัฐต่อลายมือชื่อที่ต้องการรับรอง โดยต้องชำระเป็นเงินสดด้วยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐที่สถานเอกอัครราชทูตฯ เท่านั้น และจะไม่มีการคืนเงินไม่ว่าในกรณีใด ๆ

ขั้นตอนในประเทศไทย

  1. นำเอกสารคำแปลภาษาอังกฤษไปแปลเป็นภาษาไทยโดยผู้ยื่นคำร้องเองหรือโดยนักแปลมืออาชีพในประเทศไทย
  2. นำเอกสารคำแปลภาษาไทยพร้อมกับเอกสารที่ผ่านการรับรองนิติกรณ์แล้วทั้งหมดไปยื่นต่อกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศไทย เพื่อขอรับรองความแท้จริงของลายมือชื่อเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ รวมถึงรับรองเอกสารคำแปลภาษาไทย ก่อนนำเอกสารไปยื่นต่อหน่วยงานปลายทางที่ประเทศไทยต่อไป

                                                         * * * * *

ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส
วันที่ 18 กรกฎาคม 2568